วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

All new 2012 Burmese Temporary passport (Thai)

 

          หนังสือเดินทางชั่วคราวพม่าโฉมใหม่

          เปลี่ยนไวจนใครก็ตามไม่ทัน !!!!


             
            นับแต่กระทรวงแรงงานบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลพม่า ในการตั้งศูนย์พิสูจน์สัญชาติในไทยเพิ่ม 5 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานีและเชียงใหม่ (จากเดิมมีอยู่ 3 แห่งที่เชียงราย ตากและระนอง) ตั้งแต่ต้นปี 2555 นัยว่านอกจากเป็นการอำนวยความสะดวกแก่แรงงานข้ามชาติจากประเทศพม่าที่อาศัยและทำงานในประเทศไทยที่ไม่ต้องอดตาหลับขับตานอนเบียดเสียดยัดเยียดไปทำหนังสือเดินทางถึงชายแดนหรือเสียกำลัังการผลิต หรือเสียค่ารถโดยสารไปยังศูนย์พิสูจน์สัญชาติเดิมทั้ง 3 แห่ง ที่จังหวัดเมียวดี จังหวัดเกาะตอง (เกาะสอง) และจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า
 

            passport ออกได้.. ก็เปลี่ยนใหม่ได้

           สิ่งที่สร้างความลึกลับซับซ้อน..ซ่อนเงื่อนเพื่อนงงแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ด้วยจู่ๆรัฐบาลพม่าก็ประกาศเปลี่ยนรูปแบบหนังสือเดินทางชั่วคราว (Temporary Passport) ของแรงงานพม่าที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ (Nationality Verification) จากเล่มสีแดงเป็นเล่มสีม่วงแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย       จากที่ก่อนหน้านี้ไม่นานเพิ่งประกาศขยายอายุของหนังสือเดินทางชั่วคราวจากไม่เกินครั้งละ 2 ปี (รวมเป็น 4 ปี) เป็นไม่เกินครั้งละ 3 ปี  รวมเป็น 6 ปี  และเปลี่ยนรูปแบบของบัตร Overseas  Worker เสียใหม่
                            
             ลำพังแรงงานรายใหม่ที่เพิ่งพิสูจน์สัญชาติคงไม่เป็นปัญหานัก  แต่กับแรงงานรายเก่าที่พิสูจน์สัญชาติ และหนังสือเดินทางที่จะมีอายุครบ 4 ปี (ต่ออายุครั้งละ 2 ปี รวม 2 ครั้ง) จะต้องไปขยายอายุหนังสือเดินทาง หรือเปลี่ยนไปออกเล่มเป็นแบบใหม่สีม่วงแทนเล่มสีแดงที่ครบอายุวีซ่าสองปีทุกคน (โดยทางการพม่าจะไม่ผลิตหนังสือเดินทางเล่มสีแดงอีกต่อไป)   และนั่นเท่ากับถึงเวลาแรงงานต้องเสียเงิน (กันอีกแล้ว)...


     หนังสือเดินทางชั่วคราว (Temporary Passport) แบบเดิม สีแดง
  ภาพจาก http://bangkok.immigration.go.th



      หนังสือเดินทางชั่วคราว (Temporary Passport) แบบใหม่ สีม่วง
 ภาพจาก Bangkok Post
            



                ส่วนอันนี้คือ ใบผ่านแดนชั่วคราว (Temporary  Borderpass)




                   ตราประทับของสถานทูตที่ขยายอายุหนังสือเดินทาง
                          ภาพจาก   Visa Companar


           จากการสังเกตการณ์ ณ ศูนย์พิสูจน์สัญชาติแรงงานพม่าที่สมุทรปราการ สมุทรสาคร และกทม. กรมการจัดหางานใช้ระบบให้บริษัทเอกชนดำเนินการออกเล่มหนังสือเดินทาง ซึ่งภาพรวมยังเป็นไปอย่างล่าช้า  เพราะแรงงานหลายคนเดินทางไปเข้าคิวตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น รอแล้วรอเล่ากว่าจะได้กลับก็หลังพระอาทิตย์ตก  โดยเฉพาะที่สมุทรสาครมีแรงงานมารอคิวอย่างหนาแน่น (รวมทั้งที่มาจากจังหวัดอื่นๆ ทั้งชลบุรี นครปฐม ฯลฯ) ถึงขั้นปูที่นอนรอ  กว่าจะเสร็จกระบวนการทั้งสัมภาษณ์ประวัติ ถ่ายรูป พิมพ์ลายนิ้วมือ ประทับวีซ่าโดยตม.ก็ปาเข้าไปสี่ทุ่ม ส่วนนายหน้าไทยและนายหน้าพม่าก็มาปักหลักกันอย่างเอิกเกริก  พลอยให้ร้านค้าอาหารบริเวณใกล้เคียงต่างก็ขายดิบขายดีไปตามกัน...


  











   ผังขั้นตอนพิสูจน์สัญชาติ

            
                                   

    

 หลับจนตื่น...ก็ยังไม่ถึงคิวเราเสียที



แรงงานพม่าที่ศูนย์พิสูจน์ฯสมุทรสาครเข้าแถวรอรับการพิสูจน์สัญชาติจนดึกดื่น  

                                     

               ภาพรวมของระบบการพิสูจน์สัญชาติแรงงานข้ามชาติจากประเทศลาว พม่า กัมพูชาในประเทศไทยล้วนดำเนินการโดยผ่านบริษัทเอกชนทั้งสิ้น ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อดีได้แก่ความสะดวกที่ภาครัฐไม่ต้องระดมสรรพกำลังบุคลากรเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการพิสูจน์สัญชาติเอง   แต่ข้อเสียที่ชัดเจนคือการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากแรงงานสูงกว่าต้นทุนที่แท้จริงและแรงงานก็เหมือนถูกมัดมือชกให้จ่ายเงินเหล่านั้น ขณะที่บริษัทนายหน้าบางแห่งเรียกเก็บค่าใช้จ่ายหยุมหยิมยิบย่อย แต่กลับไม่มีใบเสร็จรับเงิน


            ข้อแตกต่างระหว่างหนังสือเดินทางแบบเก่าและแบบใหม่

             หนังสือเดินทางชั่วคราวรูปแบบใหม่มีรูปลักษณ์ที่สวยงามดูเป็นมาตรฐานยิ่งขึ้น (น่าจะเรียกได้ว่ายุค 2 G : 2 Generation)  ทั้งภาพถ่ายที่สแกนลงไปในหน้ากระดาษ และข้อมูลส่วนบุคคลถูกจัดพิมพ์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์  ต่างจากเล่มสีแดงที่กระบวนการจัดทำ ใช้วิธีติดภาพถ่ายแล้วเคลือบพลาสติก ขณะที่รายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลจะใช้วิธีที่เขียนด้วยลายมือ ทำให้บางครั้งอ่านตัวอักษรหรือเลขไม่ชัดเจน  ซึ่งผู้รู้บางท่านให้ความเห็นว่าเป็นกระบวนการออกหนังสือเดินทางเดิมไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากลเท่าที่ควร หรือง่ายต่อการปลอมแปลงเอกสาร
             นอกจากนี้  หมายเลขหนังสือเดินทาง (passport  no.) ของแรงงานที่ได้รับหนังสือเดินทางรูปแบบใหม่ จะเป็นตัวอักษรขึ้นต้นด้วย T  ตั้งแต่หมวด TA เป็นต้นไป  เช่น ของสมุทรปราการเป็น TF  ส่วนสมุทรสาครเป็น TE  ไม่ใช่  KT, MWD และ TCL เช่่นในอดีต  (ได้แก่ จังหวัดเกาะสอง เมียวดีและท่าขี้เหล็ก ตามลำดับ) โดยหนังสือเดินทางฉบับใหม่ของคนเก่า จะระบุหมายเลขหนังสือเดินทางทั้งเก่าและใหม่ไว้คู่กัน  ซึ่งน่าสนใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จะต้องมาตั้งต้นทำความเข้าใจเอกสารใหม่เหล่านี้ และแรงงานจะต้องลำบากกันอีกหรือไม่...

หนังสือเดินทางแบบเก่า เขียนด้วยลายมือ


หนังสือเดินทางรูปแบบสวยงาม เป็นสากล
          สังเกตว่าจะมีหมายเลขหนังสือเดินทางตรงมุมบนด้านขวา
                ทั้งหมายเลขปัจจุบัน และหมายเลขเก่า (Old passport No.)
                โดยแรงงานจะต้องหันมาใช้หมายเลขใหม่นี้ทั้งหมด


                          
                         ก่อนจะมาเป็น passport

   

            ค่าใช้จ่ายการพิสูจน์สัญชาติและเปลี่ยนเล่มหนังสือเดินทาง

           ตัวอย่างที่พบด้วยตนเองเช่น ค่าบริการเปลี่ยนเล่มหนังสือเดินทางชั่วคราวของแรงงานที่เคยพิสูจน์สัญชาติ(มีหนังสือเดินทางเล่มสีแดง)  อัตราปกติเพียง 550 บาท    แต่ถึงเวลากลับถูกบริษัทเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆเกินที่กำหนด  นอกจากนี้ ในกรณีแรงงานข้ามชาติที่อายุจริงไม่ถึง 18 ปี  นายหน้าบางรายจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายหรือเงินกินเปล่าเพิ่มอีกคนละประมาณ 500 บาท
             ล่าสุด รัฐบาลขยายระยะเวลาการพิสูจน์สัญชาติออกไปอีกจนถึงวันที่ 14 ธันวาคม 2555 (เป็นอย่างน้อย) โดยประมาณว่ามีแรงงานข้ามชาติชาวพม่ารับการพิสูจน์สัญชาติแล้วประมาณ8แสนคน(คมชัดลึก,2มิถุนายน2555)
                
     
ป้ายภาษาพม่าระบุค่าใช้จ่ายเปลี่ยนหนังสือเดินทางเป็นเงิน  550  บาท   
           และค่าธรรมเนียมต่ออายุ VISA  330 บาท
             
   
               ท้ายสุดนี้  ผู้เขียนเองในฐานะที่คลุกคลีกับแรงงานจากพม่าอยู่บ้าง  และประเด็น Passport เป็นหัวข้อการสนทนายอดนิยมของแรงงานเหล่านี้มาตลอดสามสี่ปี  และส่วนตัวก็เห็นด้วยต่อกระบวนการออกหนังสือเดินทาง (พิสูจน์สัญชาติ) ที่เป็นมาตรฐาน ทำให้ปรับสถานะเป็นแรงงานถูกกฎหมาย  ส่วนแรงงานข้ามชาติอย่างไรเสียก็ต้องจำยอมจ่ายเงินอย่างไม่อาจขัดขืนอยู่แล้ว  ขณะที่ยังปรากฏสถานการณ์ที่แรงงานข้ามชาติถูกคุกคามด้วยข้อหาต่างๆนานา แล้วแต่ผู้มีอำนาจจะสรรหามากำนัล   รวมไปถึงสภาพปัญหาหนึ่งที่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดคือ... การนำหนังสือเดินทางชั่้วคราวไปจำนำแลกเงินสด  ซึ่งพบว่าบริษัทเอกชนที่รับพิสูจน์สัญชาติบางแห่งดำเนินการลักษณะท้าทายกฎหมายอยู่.








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น