วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แรงงานจากพม่า"เยอะ"แต่ไม่ได้"ยึด"มหาชัย


ภาคภูมิ  แสวงคำ


ภาพจาก www.thairath.co.th


 สภาพความเป็นจริง (ที่ต่างจากพาดหัวข่าว)


      หลังจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐนำเสนอ ข่าวตู้ ATM ของธนาคารแห่งหนึ่งมีเมนูเป็นภาษาพม่าและใช้ข้อความทำนองภาษาพม่ายึดมหาชัยตั้งแต่ปี 2553 นั้น  (ดูที่http://www.thairath.co.th/content/region/102327 )ข้อเท็จจริงคือแรงงานข้ามชาติในสมุทรสาครรับเงินค่าจ้างผ่านทางบัตร ATM ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กรุงเทพ กสิกรไทย และทหารไทยกว่า 3  ปีแล้ว

      จากเดิมที่แรงงานไม่สามารถเปิดบัญชีเงินฝากหรือทำธุรกรรมได้ การจะส่งเงินกลับประเทศพม่าต้องใช้วิธีโอนเงินเป็นทอดๆผ่านนายหน้าในพื้นที่จนถึงนายหน้ารับโอนเงินบริเวณชายแดน (ซึ่งต้องกดเงินจากตู้ ATM เช่นกัน)และจะถูกหักเงินประมาณร้อยละ 3-7

    ต่อมาธนาคารต่างๆ เริ่มทยอยให้แรงงานข้ามชาติที่มีใบอนุญาตทำงานสามารถเปิดบัญชีเงินฝาก (จากเดิมที่พิจารณาจากระยะเวลาการอาศัยในประเทศไทย และประเภทของสิทธิอาศัย เช่น มีเอกสารใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว  หนังสือเดินทางหรือใบอนุญาตทำงานที่ยังไม่หมดอายุฯลฯ) ส่วนเมนูภาษาพม่าบนตู้ ATM   เริ่มปรากฏตั้งแต่ประมาณเดือนมกราคม 2553

ATM ...สะดวกต่อแรงงานและนายจ้าง

สบายต่อธนาคารที่ต้องการลูกค้า

       ประโยชน์ที่ตกแก่แรงงานมากที่สุดคือความสะดวกและปลอดภัย เมื่อมีบัตรATMแรงงานไม่ต้องเสี่ยงพกเงินสดให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่จี้ชิงทรัพย์อยู่บ่อยครั้งในยามค่ำคืนขณะเดินทางกลับจากงาน บ้างก็ปล้นกันตามห้องพัก มีทั้งที่ปลอมเป็นตำรวจหรือถูกเจ้าหน้าที่ทุจริตบางคนเข้าตรวจค้นห้องและรีดไถเงินสดไปหมด แรงงานก็ไม่กล้าแจ้งความด้วย ทว่าเรื่องเหล่านี้มักไม่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อกระแสหลัก  ต่างจากข่าวที่แรงงานข้ามชาติเป็นผู้กระทำผิด ที่มักได้รับความสนใจและฝังใจจำตลอดมา

        ด้วยจังหวัดสมุทรสาครประกอบด้วยโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากที่ ล้วนพึ่งพาแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน ข้อมูลของจังหวัดสมุทรสาครระบุชัดว่า GDP ของจังหวัดสมุทรสาครสูงเป็นอันดับสองของประเทศไทย (รองจากจังหวัดระยอง) เมื่อเศรษฐกิจดี ประกอบกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในจังหวัดสูงถึงวันละ 300 บาท ย่อมเป็นปัจจัยดึงดูดให้แรงงานมาอาศัยและทำงานจำนวนมากในพื้นที่ ส่วนหนึ่งเป็นภาระต่อสังคมไทยหลายประการ แต่อีกแง่หนึ่งต้องยอมรับว่าแรงงานก็จับจ่ายซื้อสินค้าและบริการให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของจังหวัด 

     ทุกวันนี้บรรดาห้างร้านเล็งเห็นแรงงานเป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องทำการตลาด แรงงานรายหนึ่งเปิดเผยว่าก่อนห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่จะเปิดบริการได้เรียกไปสัมภาษณ์ว่า แรงงานมอญพม่านิยมใช้สินค้าแบบใดบ้าง


ป้ายเชิญชวนทำบุญในวัด


ป้ายบอกราคาในห้างสรรพสินค้า

ภาษาพม่าอยู่ที่ใดบ้างในสมุทรสาคร

        เราสามารถพบเห็นป้ายภาษาพม่าได้ตามชุมชนทั่วไปไม่ต่างจากป้ายภาษาอังกฤษและภาษาจีนหน้าร้านค้า (ซึ่งอันที่จริงคนไทยส่วนใหญ่ก็อ่านและแปลภาษาจีนหรืออังกฤษไม่ใคร่ได้อยู่แล้ว) ทั้งป้ายบอกเส้นทางรถโดยสาร รับสมัครงาน ห้องว่างให้เช่า คลินิกโรงพยาบาล วัด ร้านถ่ายรูป ร้านเสริมสวย ร้านถ่ายเอกสาร ร้านขายโทรศัพท์มือถือ ร้านขายรถจักรยานยนต์ (กฎหมายเปิดให้แรงงานข้ามชาติถูกกฎหมายสามารถซื้อรถและเป็นเจ้าของได้แล้ว)แม้กระทั่งร้านขายทอง  เริ่มปรากฏป้ายภาษามอญพม่าเช่นเดียวกับร้านค้าบริเวณจังหวัดอื่นตามแนวชายแดนลาวและกัมพูชาที่แสดงป้ายภาษาลาวและกัมพูชา  หรือหากไปตามโรงแรมแถวพัทยาก็จะมีป้ายภาษารัสเซียปรากฎอยู่ทั่วไป  








ร้านขายรถมอเตอร์ไซค์ก็พลอยได้ลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่ม


     นอกจากนี้ โรงเรียนทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาในหลายจังหวัดเริ่มเปิดหลักสูตรอาเซียนศึกษา ซึ่งการสอนภาษาพม่าก็เป็นหนึ่งในหลักสูตรที่หลายคนไม่ว่านายจ้าง หัวหน้างานในสถานประกอบการ หน่วยงานราชการในจังหวัดสมุทรสาคร ฯลฯ เริ่มหันมาให้ความสนใจมากขึ้นทุกขณะ




   

        ข้อกล่าวหาว่าแรงงานจากพม่ายึดมหาชัยเป็นข้อกล่าวหาฉกรรจ์ที่เจือด้วยอคติ แรงงานส่วนใหญ่หวังเพียงมาขายแรงงานเพื่อหาเงิน ไม่ได้หวังครอบครองเป็นเจ้าของกิจการหรือหวังยึดเมืองเช่นการศึกสงครามสมัยโบราณอีกแล้ว

                สื่อจึงไม่ควรพาดหัวข่าวในลักษณะที่หวือหวาแต่กลับสร้างความหวาดระแวงต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม         ทั้งที่ปี 2558 จะกลายเป็นประชาคมร่วมกันในภูมิภาค


    

ประเทศพม่าเปิด ธนาคารไทยก็เปิด

 

                                         ภาพจาก www.kasikornbank.com


 
                                        ศูนย์แลกเงินที่พม่า (ภาพจาก Reuters)


       นับแต่ต้นปี 2555 หลังจากพม่าจัดการเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา  ส่งผลให้นานาประเทศทั้งสหภาพยุโรป สวิสเซอร์แลนด์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ทยอยส่งสัญญาณยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อพม่า ล่าสุดเดือนพฤษภาคม 2555 มิติใหม่ในการทำธุรกรรมของแรงงานจากพม่าในประเทศไทยก็ถือถึงคราวเปลี่ยนโฉมหน้า  และน่าจะส่งแรงสั่นสะเทือนต่อธุรกิจนายหน้ารับโอนเงินทั้งหลาย  เนื่องจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (K BANK) จับมือกับ Asia Green Development Bank Ltd. (AGD Bank)  ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารชั้นนำของประเทศพม่าเพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายเงินทุน และแรงงานระหว่างชาติอาเซียนที่จะเปิดเสรีมากขึ้น โดยเฉพาะประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558

      ในช่วงแรกธนาคารกสิกรไทย และเอจีดีแบงก์ จะเปิดบริการ “โอนเงินไปประเทศพม่า” ผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารกสิกรไทย เช่น เคเอทีเอ็ม (K-ATM) โดยสามารถโอนเงินได้สูงสุด 90,000 บาท หรือ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน และสามารถรับเงินได้ภายใน1วันที่เอจีดีแบงก์ในประเทศพม่า โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่1 กรกฎาคม 2555 ผ่านเคาน์เตอร์สาขาธนาคารกสิกรไทยและเครื่องเอทีเอ็ม(K-ATM)นำร่องใน11จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี ปทุมธานี เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง สุราษฎร์ธานี สงขลา และภูเก็ต

       ทั้งนี้  ธนาคารคาดว่าจะมีชาวพม่าใช้บริการโอนเงินกลับประเทศพม่ากับธนาคารประมาณ 5 แสนคน หรือประมาณ 30% ของแรงงานชาวพม่าที่ทำงานถูกต้องตามกฎหมายที่มีอยู่ประมาณ 1.6 ล้านคน
                                        
                                  ขอบคุณข้อมูลจาก www.kasikornbank.com

        ผู้เขียนเห็นว่าหลังจากพม่าประกาศอัตราแลกเปลี่ยนเงินแบบลอยตัวเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2555 โดยอัตราอ้างอิงอยู่ที่ 818 จั๊ตต่อดอลลาร์  ความร่วมมือของธนาคารกสิกรไทยและเอจีดีแบงก์ในการให้บริการโอนเงินไปประเทศพม่าจะอำนวยความสะดวกในด้านประหยัดเวลา ค่าธรรมเนียมการโอนและรับประกันว่าเงินจะถึงมือผู้รับแบบไม่ต้องไปลุ้นว่านายหน้าที่รู้จักจะหักหลัง

     ขณะที่ข้อครหาว่าแรงงานข้ามชาติพากันขนเงินกลับประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปี    สำหรับการทำธุรกรรมต่างๆ มีพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ.2485 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยมีอำนาจควบคุมการนำเงินบาทติดตัวออกไปนอกประเทศ (ทั่วไปไม่เกิน 50,000 บาท) หรือการโอนเงินทุนออกไปนอกประเทศ  กรณีลงทุนในกิจการที่ต่างประเทศ(วงเงินไม่เกินปีละ10ล้านดอลล่าร์สหรัฐ) ซึ่งโดยสภาพของแรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่จัดเป็นผู้มีรายได้น้อย ที่เป็นเหตุให้ไม่เสียภาษีรายได้

     ปัจจุบันเข้าสู่ยุคพิสูจน์สัญชาติเพื่อเป็นแรงงานถูกกฎหมายตามหน้าที่”รัฐก็ต้องคุ้มครอง“สิทธิ”การทำธุรกรรมการเงินตามสมควร ดีกว่าปล่อยให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ของธุรกิจนายหน้านอกระบบที่รับโอนเงินแต่กลับควบคุมตรวจสอบไม่ได้เลย

  ที่สำคัญคือหากเกรงว่าแรงงานข้ามชาติจะใช้การโอนเงินเป็นช่องทางฟอกเงินที่ได้จากธุรกิจผิดกฎหมาย ไม่ว่าการค้ายาเสพติด..ค้าอาวุธ..ค้ามนุษย์ ฯลฯ ก็ย่อมสามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมผ่านทางธนาคารได้สะดวกยิ่งขึ้น เป็นประโยชน์ต่อภาครัฐ  โดยเฉพาะหน่วยงานความมั่นคงแบบเต็มๆ.


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

                                              

     

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น